เพชรตัดทำลายมายา เพื่อ ESG และความยั่งยืน

ESG ย่อมาจาก Environmental, Social และ Governance โดยมีความหมายของแต่ละองค์ประกอบ ดังนี้

1. Environmental (สิ่งแวดล้อม)

การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดคาร์บอน การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดการของเสีย

2. Social (สังคม)

การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงานและชุมชน เช่น ความเสมอภาค สิทธิมนุษยชน และสุขภาพความปลอดภัย

3. Governance (ธรรมาภิบาล)

การบริหารจัดการองค์กรอย่างโปร่งใส มีจริยธรรม และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ESG จึงเป็นกรอบแนวคิดที่ใช้ประเมินผลกระทบและความยั่งยืนของธุรกิจในมิติที่กว้างกว่ากำไรเพียงอย่างเดียว

เพชรตัดทำลายมายา (Diamond That Cuts Illusion)

เพชรตัดทำลายมายา (Diamond That Cuts Illusion) เป็นหลักคำสอนที่มีเป้าหมายในการทำลายความเข้าใจผิดและความยึดมั่นในสิ่งที่เราคิดว่าเป็นจริง  โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนสำคัญ ได้แก่

  • ตัวตน (Self)
  • มนุษย์ (Man)
  • สิ่งมีชีวิต (Living Being)
  • ช่วงเวลา (Time Span)

มีความลึกซึ้งมากกว่าจะเข้าใจด้วยความคิด ผ่านกลไกการทำความเข้าใจแบบเดิม แต่อย่างไรก็ตาม หากมีการฝึกปฏิบัติต่อเนื่อง ก็มีแนวโน้มจะก้าวพ้นกระบวนทัศน์แบบเดิมได้ในระดับเบื้องต้น เพื่อไปสู่กระบวนทัศน์แบบใหม่ ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลแนวคิด ESG ได้เช่นกัน ดังนี้

1. ตัวตน (Self) สู่ธรรมาภิบาล (Governance)

หลักคำสอนว่า "ตัวตนเราประกอบขึ้นจากสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนเรา" ชี้ให้เราเลิกยึดมั่นในผลประโยชน์ส่วนตัวหรือผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม

ในแง่ของ ESG เราสร้างระบบบริหารจัดการที่โปร่งใส ยุติธรรม และปราศจากอคติ มุ่งเน้นผลประโยชน์รวมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) เช่น ผู้ถือหุ้น พนักงาน และชุมชน

2. มนุษย์ (Man) สู่สังคม (Social)

การเข้าใจว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบใหญ่ ช่วยลดการแบ่งแยกและเน้นการสร้างความเสมอภาค

ในแง่ของ ESG เราสร้างความเสมอภาคในองค์กร เช่น การลดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เน้นความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น การสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชนแวดล้อม รวมถึงการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน (Inclusion)

3. สิ่งมีชีวิต (Living Being) สู่สิ่งแวดล้อม (Environmental)

หลักคำสอนว่าสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตเป็นดั่งกันและกัน ช่วยให้เราเคารพธรรมชาติ มากกว่ามองว่าเป็นแค่ทรัพยากรสำหรับใช้งาน

ในแง่ของ ESG เราลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยคาร์บอน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยการตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมอย่างลึกซึ้งด้วยความรัก

4. ช่วงเวลา (Time Span) สู่ความยั่งยืน (Sustainability)

ช่วงเวลาเป็นเพียงมายาที่เราติดยึด ทำให้เราอาจหลงมองเพียงความสำเร็จระยะสั้น หรือเฉพาะในช่วงชีวิตของตนเอง หากเราก้าวข้ามการยึดติดในช่วงเวลาได้ เราจะพิจารณาความยั่งยืนในระยะยาว เพื่อเราในทุกยุคสมัย

ในแง่ของ ESG เราวางแผนธุรกิจและการพัฒนาที่คำนึงถึงผลกระทบในอนาคต เช่น การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการลงทุนที่สร้างผลลัพธ์ในระยะยาว แทนการมุ่งเน้นกำไรทันที

สรุป หลักคำสอนเรื่องเพชรตัดทำลายมายา (Diamond That Cuts Illusion) สนับสนุนแนวคิด ESG โดยช่วยให้เราละวางจากความคิดแบ่งแยกและยึดติด มุ่งสู่การสร้างความสมดุลและความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติ และการบริหารจัดการ เพื่อโลกที่ยั่งยืน โอบรับความหลากหลาย ใส่ใจความเสมอภาค และเคารพการมีส่วนร่วม (DEI: Diversity, Equity and Inclusion)

สำหรับคนที่สนใจแสงส่องทาง ที่สามารถนำทางให้เราเติบโตทั้งเชิงจิตวิญญาณ ไปพร้อม ๆ กับการเกื้อกูลสิ่งแวดล้อม สังคม และระบบการบริหารจัดการที่ดี การฝึกปฏิบัติจากด้านในตนเอง เพื่อทำลายมายาคติเช่นนี้ อาจเป็นแสงนำทางที่น่าสนใจ ในการหลอมรวมจิตใจและโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน (The Unity of Mind and World)

--- รัน ธีรัญญ์, Ph.D.

Run Wisdom วิทยากร กระบวนกร ที่ปรึกษา
Since:
Update:

Read : 144 times