มิติที่ 1: การดำรงอยู่ - การบ่มเพาะชีวิตด้านในของเรา (Being — Cultivating Our Inner Life)

งานเขียนนี้ คือ บันทึกการเรียนรู้ส่วนหนึ่ง จากการเข้าร่วมเรียนรู้ในโปรแกรม IDG Ambassador

ภาพรวมของเป้าหมายการพัฒนาด้านใน (IDG) เป้าหมายการพัฒนาด้านใน (IDG) เป็นโครงการริเริ่มที่ไม่แสวงหาผลกำไรและเปิดเผยแหล่งที่มา (open-source) ที่มุ่งนำพลังของการพัฒนาด้านในมาใช้เพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกทั้งหมด ผู้ริเริ่ม IDG ตระหนักถึงความสำคัญของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) ซึ่งเป็น 17 ด้าน ที่มนุษยชาติตกลงร่วมกันว่าจะสร้างโลกที่เจริญรุ่งเรืองและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สังเกตเห็นว่าความก้าวหน้าในหลายด้านของ SDGs กำลังถดถอยลง และมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของอุปสรรคต่อการพัฒนานี้ หากมนุษย์สามารถร่วมมือกันได้ดีขึ้นและตัดสินใจในสิ่งที่จำเป็น ปัญหาเหล่านี้จะสามารถแก้ไขได้

ในงาน IDG Summit 2025 ที่ผ่านมา

Leif Kusaya (Lead Analyst) ได้อธิบายถึงกระบวนการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ Inner Development Guide เอาไว้ว่า “เรามีผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 22,000 คน และมีข้อมูลมากกว่า 900,000 คำ” แสดงให้เห็นถึงปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ที่ทีมต้องนำมาวิเคราะห์ “เรามีทีมทำงานร่วมกัน 19 ทีมทั่วโลก จาก 102 ประเทศ” (ต่อมา Frederick Linton Crona ได้ให้ข้อมูลในโปรแกรม IDG Ambassador ว่ามีทั้งหมด 25 ทีม จาก 165 ประเทศ) ยืนยันว่ากระบวนการนี้เป็น collective effort หรือความร่วมมือระดับนานาชาติจริง ๆ “เราได้รับความช่วยเหลือจาก MaxQDA ซึ่งสนับสนุนเรามากในกระบวนการวิเคราะห์” แสดงว่าทีมใช้เครื่องมือวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (qualitative coding) อย่างมีโครงสร้าง “กระบวนการนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นการสร้างความหมายร่วม” หมายถึง การรวมการวิเคราะห์เชิงข้อมูลกับการตีความร่วมกัน “เราเริ่มจากกว่า 900,000 คำ และจบที่เพียง 45 คำ” ซึ่งหมายถึงการสกัดสาระสำคัญจากข้อมูลจำนวนมากให้กลายเป็นโครงสร้างสุดท้ายของ IDG Guide “เราเหมือนผึ้งที่ทำงานในสนามของตัวเอง และสุดท้ายเราได้ ‘น้ำผึ้ง’ ออกมาเป็น framework honey” ภาพรวมของที่มาจึงสื่อถึงการรวมแรงของทีมทั่วโลกให้กลายเป็นผลงานเดียวกัน และ Frederick Linton Crona (Head of Research and Co-Creation) ได้เล่าว่าย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ตอนที่ทีมเริ่มคุยกันในครัวของ Jakob Trollbeeks พวกเขามีเป้าหมายจะสร้าง “ชุมชนระดับโลก” ที่ต้อง ฟังเสียงจากทั่วโลก และเชื่อมโยงความคิดเห็นจากหลายวัฒนธรรมเข้าด้วยกันให้กลายเป็น “ผ้าคลุมที่สวยงาม” หรือ beautiful quilt ที่หล่อเลี้ยงการเรียนรู้ร่วมกัน ท้ายที่สุด ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวขอบคุณทีมงานทั่วโลก เช่น Thomas Jordan, Christina Rug, และ Jakob Trollbeeks รวมถึง “ผึ้งทุกตัว” ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ IDG Guide ฉบับใหม่นี้ให้เกิดขึ้นได้จริง
 

มิติที่ 1: การดำรงอยู่ (Being)

การดำรงอยู่ - การบ่มเพาะชีวิตด้านในของเรา (Being - Cultivating Our Inner Life) การลงลึกกับการตระหนักรู้ถึงประสบการณ์ด้านใน และความสัมพันธ์ที่เคลื่อนไหวกับโลกภายนอก ช่วยหล่อเลี้ยงการอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มเปี่ยม มีความชัดเจนในเจตจำนงและตอบสนองอย่างรอบคอบเมื่อเผชิญกับความซับซ้อน (Deepening our awareness of inner experiences and their dynamic relationship with the world around us nurtures embodied presence, clarity of purpose, and thoughtful responses when we face complexity.)

มิติแรกของการพัฒนาด้านในคือ การเป็นอยู่ (Being) ซึ่งเป็นรากฐานสำหรับความสามารถในการอยู่กับความคิด ความรู้สึก และร่างกายของเราอย่างมีประสิทธิภาพ และการกระทำด้วยความตั้งใจและมีเป้าหมาย มิตินี้ประกอบด้วยทักษะสำคัญ 5 ประการ

1. เข็มทิศภายใน (Inner Compass)

เข็มทิศภายใน - ความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งที่จะใช้ชีวิตและกระทำตามคุณค่าและเป้าหมายที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม (A deeply felt commitment to live and act in accordance with values and purposes that serve the good of the whole.)

    • เกี่ยวข้องกับการ ชี้แจงค่านิยม ที่เราให้ความสำคัญและต้องการดำเนินชีวิตตาม
    • จากการวิจัย (โดยเฉพาะจาก ACT: Acceptance and Commitment Training) แสดงให้เห็นว่าหากเรามีความชัดเจนเกี่ยวกับค่านิยมของเรา เราจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในฐานะผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นการนำตนเองหรือการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนที่มีค่านิยมและโลกทัศน์ที่แตกต่างกัน

2. ความซื่อตรงและความจริงแท้ (Integrity and Authenticity)

ความซื่อตรงและความจริงแท้ - ความมุ่งมั่นอย่างจริงใจต่อความซื่อสัตย์และคุณค่าที่มั่นคง แสดงออกและสื่อสารผ่านการกระทำ (A sincere commitment to honesty and firmly grounded values, expressed and embodied in action.)

    • เป็นความท้าทายในการ ดำเนินชีวิตตามค่านิยมของเราจริง ๆ
    • การเป็นคนจริงใจ ซื่อสัตย์ และตรงไปตรงมาในโลกนี้บางครั้งก็ยาก และอาจมีผลกระทบตามมา
    • สิ่งสำคัญคือการสะท้อนว่าเราจัดการกับความเจ็บปวดทางจิตวิทยาอย่างไร และเราประคับประคองตนเองอย่างไรเมื่อเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินชีวิตตามค่านิยมของเราหรือเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง

3. การเปิดรับและชุดความคิดแบบเรียนรู้ (Openness and Learning Mindset)

การเปิดรับและชุดความคิดแบบเรียนรู้ - ทัศนคติที่ใฝ่รู้และยืดหยุ่น แสดงออกผ่านความเต็มใจในการแลกเปลี่ยนมุมมอง เปิดใจยอมรับความเปราะบาง การเปลี่ยนแปลง และการเติบโต (A curious, adaptive attitude expressed through willingness to exchange perspectives, be vulnerable, welcome change, and grow.)

    • หมายถึงการ ยอมเปราะบางและต้องการเรียนรู้
    • ศาสตราจารย์ Robert Kegan จาก Harvard มีสูตรสำหรับการพัฒนาว่า "ความเจ็บปวด + การสะท้อนกลับ = ความก้าวหน้า" ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเราต้องมีทั้งสองส่วนนี้ เราไม่สามารถเพียงแค่สะท้อนกลับโดยไม่ท้าทายตัวเอง หรืออยู่ในความเจ็บปวดโดยไม่ถอยออกมาและเรียนรู้จากมัน
    • เราสามารถเตรียมพร้อมอย่างกระตือรือร้นเพื่อให้เปิดกว้างมากขึ้นและมีกรอบความคิดแบบเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนและปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน

4. การตระหนักรู้ในตนเอง (Self-Awareness)

การตระหนักรู้ในตนเอง - ความสามารถในการสะท้อนและสัมผัสถึงความคิด อารมณ์ ความปรารถนา และการกระทำ เพื่อคงภาพลักษณ์ที่แท้จริงของตนเองและกำหนดตนเอง (Ability to be in reflective contact with thoughts, emotions, desires, and actions; to maintain a realistic self-image and to regulate oneself.)

    • มีหลายวิธีที่เราสามารถ "แยกตัวออกจาก" ความคิดและอารมณ์ของเราได้ โดยมองเห็นสิ่งเหล่านั้นเป็นเสมือนวัตถุ
    • วิธีการฝึกฝนรวมถึงการเขียนบันทึกประจำวัน (journaling) การเข้าร่วมกลุ่มสะท้อนความคิด หรือการสำรวจภายในตนเอง ซึ่งช่วยให้เราสามารถควบคุมตนเองได้ดีขึ้นเมื่อเรามองความคิดหรืออารมณ์เป็นวัตถุ
    • ความตระหนักรู้ในตนเองสามารถพัฒนาได้ด้วยตนเอง แต่ก็สามารถได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น เช่น การรับฟังความคิดเห็น (feedback) หรือการประเมินแบบ 360 องศา เพื่อให้มีมุมมองที่สมจริงเกี่ยวกับตนเอง ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดที่เกิดจากความไม่สอดคล้องกันระหว่างความเป็นจริงกับมุมมองที่เรามีต่อตนเอง

5. การดำรงอยู่ในปัจจุบัน (Presence)

การดำรงอยู่ในปัจจุบัน – ความสามารถในการอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มเปี่ยม ณ ที่นี่ และ ขณะนี้ ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และตอบสนองอย่างมีความหมาย (Capacity to be fully present in the here and now, to accept reality as it unfolds, and to respond in meaningful ways.)

    • เป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนได้ด้วยการใช้สติ (mindfulness) ในการเผชิญหน้ากับตนเอง (อารมณ์ ความคิด) และผู้อื่น
    • ผู้คนจำนวนมากขึ้นมีการฝึกสมาธิทุกวัน แต่การมีอยู่สามารถทำได้กับทุกกิจกรรม เช่น เล่นกีฬา เล่นกีตาร์ หรือเครื่องดนตรีอื่น ๆ
    • การฝึกฝนการมีอยู่แสดงให้เห็นว่ามีผลกระทบอย่างมากต่อวิธีการดำเนินชีวิต การสร้างความสัมพันธ์ และการนำตนเองและผู้อื่น

การพัฒนาทักษะเหล่านี้ในมิติ "การดำรงอยู่" (Being) มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาด้านในโดยรวม และเป็นรากฐานที่จำเป็นสำหรับการรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนและการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน


Please share your reflections in the chat.

  • 1. What key insight or takeaway from the article resonated most with you, and why?
  • 2. What new question or curiosity has emerged for you after reading it?

 

Run Wisdom Soft Skills Trainer, Contemplative Facilitator, and Certified Strengths Coach
Since:
Update:

Read : 380 times