(ฉัน) ที่ถูกมองเห็น
บางทีคนเราก็คงไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าการได้รับความเข้าใจ ยอมรับ เปิดพื้นที่ให้ได้แสดงความคิดเห็น เปิดศักยภาพในการแก้ปัญหาต่างๆของงานที่ตนมีส่วนร่วมทั้งทางตรงและทางอ้อม
เมื่อค่อยๆแง้มประตูแห่งความเข้าใจ แง้มหัวใจแห่งการฟังโดยไม่ตัดสิน ชื่นชมในความพยายามที่จะแบ่งปันสิ่งที่ตนคิดว่าดีว่าเหมาะถึงแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย มันก็ทำให้หัวใจคนพูดและคนรับฟังพองฟูไปได้พร้อมกัน นำมาซึ่งความเบิกบานค่อยๆก้าวเดินกันไป สะสมความกล้าหาญ ความใส่ใจใฝ่รู้พัฒนา ยอมรับความท้าทายสิ่งใหม่ๆแล้วลองไปปรับใช้ดู
มองวิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่ตีความหมายที่จะบั่นทอนตนเอง แปรเปลี่ยนเป็นพลังบวกเพื่อหาทางปรับปรุง สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้อย่างช้าๆและสง่างาม เมื่อผู้คนเปิดหัวใจพร้อมยอมรับการ
เปลี่ยนแปลง เรียนรู้ และเริ่มลงมือทำ โยงใยไปทำให้นึกถึงการจัดภาคการเรียนรู้ของสถาบันการศึกษาทางเลือกแห่งหนึ่ง มีการจัดภาคเรียนของเด็กเป็น ภาคฉันทะ ภาควิริยะ ภาคจิตตะ และภาควิมังสา ซึ่งตรงกับหลักคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธะเรื่อง “อิทธิบาท 4”
อย่างไรก็ดี การเรียน การทำงาน การใช้ชีวิต เราสามารถนำหลักการนี้ไปใชได้ตลอด เราต้อง”” “เริ่มสิ่งใดด้วยใจรัก ฟูมฟักไม่หน่ายหนี
หมั่นตรวจสอบทุกท่วงที ทบทวนผลกระทบทุกสิ่งในใจตน”
With love ❤️ of Four Rddhippada
🌸Ratchada
#โรงเรียนนักเขียนด้วยหัวใจ
#ยิ่งเขียนยิ่งเติบโต