เรื่องเล่าจากหุบเขา

เรื่องเล่าจากหุบเขา

 

ค่ำคืนเดือนเพ็ญวันพระจันทร์เต็มดวง สัตว์ป่าน้อยใหญ่ได้รับเทียบเชิญปริศนาให้เดินทางมาที่หุบเขาแห่งสติโดยมีคำใบ้ปริศนาว่าอายุขัยมีสิงโต ช้าง ม้า พญาอินทรี ลิงงู กา แมลง ผีเสื้อ และเต่าที่ทยอยเดินต้วมเตี้ยมใช้แสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญที่ส่องสกาวมาสบทบด้วย

 

ทุกตัวต่างไปทำการบ้านมาโดยไปสอบถามบรรพบุรุษของตนเองที่ยังเหลืออยู่ว่าสัตว์ในวงศ์ของตนอายุยืนที่สุดกี่ปี สิงโต ช้าง ม้า ลิง บอกว่า30-60 ปี สัตวปีกพวกกากับอินทรีย์ เฉลี่ย80 ปี พวกแมลงตัวเล็กตัวน้อยหลักวันหรือเดือน มีแต่ผู้เฒ่าเต่าของเราบอกว่าเกือบ250ปี โหทำไมชีวิตเรายาวสั้นต่างกันมากมายถึงเพียงนี้ บางชนิดยังไม่ทันข้ามคืนวันก็หมดเวลา ส่วนบางชนิดก็ต้องอยู่กันไป4 -5 รุ่นกว่าจะได้กลับบ้านเก่า

 

พวกเราคิดว่าเรามีอะไรที่เหมือนกันบ้าง เราต่างกันทั้งรูปร่างหน้าตา เวลาและอายุขัยเจ้าลิงดูเหมือนจะรู้ดีกว่าใครบอกว่าเราล้วนมีชีวิตอยู่ด้วยการหายใจแต่อาจจะต่างรูปแบบกันไป บ้างบนบกบ้างในน้ำบ้างบนฟ้า พวกเรารู้แต่ว่าถ้าเราขาดอากาศหายใจเราคงไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้

 

เหล่าสัตว์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าลมหายใจนั้นมีคุณค่าถึงแม้เวลาเราจะมีต่างกันแต่ถ้าเรายังมีลมหายใจมันหมายถึงว่าเราก็ยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ช่วงเวลานั้นได้ยินแต่เสียงอื้ออึงคุยกันไปมา จนเทวาอารักษ์ที่ดูแลผืนป่าแห่งนี้ได้ปรากฏตัวแล้วบอกเหล่าสัตว์ทั้งหลายว่า ไม่สำคัญว่าพวกเจ้าจะมีอายุยืนยาวแค่ไหนแต่สิ่งที่สำคัญคือการที่พวกเจ้าใช้ชีวิตที่มีให้เป็นประโยชน์ได้แค่ไหนต่างหาก ถ้าเจ้ารักผืนป่าช่วยกันดูแล ผืนป่าก็รักเจ้าเช่นกัน แต่ถ้าเจ้าทะเลาะกันชักศึกเข้าบ้าน สุดท้ายเจ้าก็จะไม่มีบ้านอยู่ พวกเจ้าไปคิดดูกันเอาเองนะว่าที่เราบอกนั้นมันใช่หรือไม่และแล้วเสียงนั้นก็มลายหายไป

 

ค่ำคืนแห่งการพบกันคืนนั้นอาจเป็นคืนสุดท้ายของเจ้าแมลงน้อยใหญ่และอาจจะได้ยินเสียงสัตว์อื่นๆพึมพำในใจว่าอีกไม่นานก็ต้องเป็นเราเหมือนกัน

 

ไม่ว่าแมลงหรือช้างหรือเต่าคุณค่าไม่ต่างกันถ้าใช้ชีวิตสงบเย็นเป็นประโยชน์ต่อถิ่นกำเนิดของตนเอง

 

With love ❤️ of moonlight

🌸Ratchada

#โรงเรียนนักเขียนด้วยหัวใจ

#ยิ่งเขียนยิ่งเติบโต

🌸Ratchada Beginner Writer
เขียน 04 ก.ย. 2566 07:37
ปรับแก้ 04 ก.ย. 2566 07:38