ภาวนาใจ..ยามป่วยไข้

การเจ็บป่วยทางร่างกายจากสาเหตุใดๆ แม้จะได้รับการรักษาทางการแพทย์ ด้วยยา การผ่าตัด ฉายรังสี หรือวิธีการอื่นแล้ว ยังคงมีอาการปวด ไม่สุขสบาย ต้องการเวลาให้อาการทุเลาดีขึ้น ซึ่งอาจจะใช้เวลา เป็น วัน สัปดาห์ หรือหลายเดือนก็ได้
 
ช่วงเวลานี้ นับว่าเป็นโอกาสทองของการภาวนา เพราะจะได้เห็นสภาพความจริงในร่างกาย อารมณ์ ความคิด ความคาดหวัง ความกลัวกังวล ความรู้สึกความอึดอัดไม่พอใจ ความคิดคำนึง ที่ผ่านเข้ามาในห้วงการรับรู้ เป็นประสบการณ์มือหนึ่ง ( first-hand experience ) ในทุกปัจจุบันขณะ
 
ยิ่งยึดถือว่า "ร่างกายนี้คือฉัน" "ความเจ็บปวดไม่สบายของฉัน" จะทำให้ยิ่งกังวลกลัวและเป็นทุกข์ กระสับกระส่ายมากขึ้น จนเครียด นอนไม่หลับ ซึ่งจะมีผลลบต่อความเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ใช่ไหม ?
 
สามารถใช้ช่วงเวลานี้ เป็นเวลาทองของชีวิตด้วยการภาวนาใจด้วยวิธีการเรียบง่าย โดย
"กายจิตผ่อนคลาย-ใจเปิดกว้าง-เห็นสิ่งปรากฏในความว่าง" ดังนี้
 
* กายจิตผ่อนคลาย *
- หายใจเข้า-ออกด้วยความรู้สึกตัวในปัจจุบัน ให้รู้สึกถึงลมหายใจเข้าออกเท่าที่รู้สึกสบาย ไม่กลั้น ไม่กดข่ม ไม่ฝืน ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ
- ผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย ที่มักจะเกร็งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะหน้าผาก กรามบ่าไหล่ ต้นคอ แขน ขา ตามลำดับ
- วางความคิดกังวล อดีต-อนาคต วางใจว่าปัจจุบันคือเวลาอันประเสริฐสุด แต่หากวางเรื่องราวต่างๆไม่ได้ ก็เพียง " รู้" ว่านี่คือความคิด เมื่อคุณเห็นความคิด คือการมีสติ จะเกิดระยะห่าง (distancing) ช่วยให้ใจเป็นอิสระจากความคิดได้
ด้วยความเคยชินเดิม และความคิดปรุงแต่ง ยังจะคอยพาให้ใจฟุ้งซ่าน สงสัย กังวล ก็ให้ใช้การสูดลมหายใจยาวๆเพื่อเรียกสติกลับคืนมา
 
** ใจเปิดกว้าง **
ขยายความรู้สึกตัวออกไป ไม่จำกัดอยู่กับเฉพาะร่างกายที่ป่วย แต่จะรับรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วย อาจจะมองเห็นสิ่งของรอบตัว ได้ยินเสียงผู้คน นกร้องอยู่ข้างนอก ได้กลิ่นอาหารในครัว รู้สัมผัสที่นั่งที่นอนว่านุ่มหรือแข็ง อากาศในห้องอุ่นหรือเย็น จะเข้าใจว่า "ความรู้สึกตัว" นี้สามารถขยายออกได้ เมื่อไม่กักขังไว้กับร่างกายเท่านั้น ใจรู้นี้ยังขยายออกได้อย่างไร้ขอบเขต ดุจเป็นห้วงอวกาศ
 
*** เห็นสิ่งปรากฏในความว่าง ***
ขณะนี้ทุกอาการความรู้สึกที่เกิด คือ "สิ่งปรากฏ" หรือ "ความสั่นสะเทือน" ในห้วงของใจรู้
- ไม่ต้องให้ชื่อเรียกกับอาการ
- ไม่ต้องให้ความหมายว่าคือโรคร้าย
- และไร้การตัดสินว่าดีหรือไม่ดี จึงพ้นไปจากแนวคิดทั้งหมด
และยังรวมไปถึงทุกสิ่งปรากฏรอบตัว ก็มีสภาพเดียวกัน ไม่ต่างกัน คือสิ่งปรากฏในความว่าง
 
เมื่อใจไม่กระเพื่อมไปกับสิ่งใดที่ปรากฏทั้งภายในและภายนอก จะมีความสงบสงัดขึ้นในใจเอง และแม้ความสงบก็ไม่ยึดไว้ เพราะมันเป็นประสบการณ์หนึ่งเท่านั้น นำสู่ความเข้าใจว่าสรรพสิ่งล้วนมีรสเดียว ( เอกรส : One taste) ว่างหรือวุ่นไม่ต่างกัน หนักและเบาไม่ต่างกัน ป่วยไข้หรือปกติไม่ต่างกัน ตัวคุณและสิ่งอื่นไม่ต่างกัน ทั้งหมดจึงหลอมรวมเป็นหนึ่งของความจริงเดียวกัน
 
ด้วยความเชื่อมั่นนี้เอง จะพบสันติสุขที่ลึกล้ำเป็นมหาสันติ ( Mahasandhi) คือ การคืนสู่ธรรมชาติจิตเดิมแท้ ซึ่งแจ้งประจักษ์ได้ท่ามกลางความเจ็บป่วย และเป็นหนทางอันเลิศ ที่คุณสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ชีวิต ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เจ็บป่วยทุกท่านครับ
 
- รศ.นพ.ธวัชชัย กฤษณะประกรกิจ
รศ.นพ.ธวัชชัย กฤษณะประกรกิจ จิตแพทย์
เขียน 04 ก.ย. 2566 15:36
ปรับแก้ 04 ก.ย. 2566 15:39