อภัย..ให้โลกเย็น
โลกในวันนี้ร้อนเดือด ( global boiling) ทั้งทางกายภาพ คือชั้นบรรยากาศ และทางจิตใจจากความโกรธเคืองที่มนุษย์มีต่อกัน ด้วยการกล่าวโทษจนเป็นศัตรู สร้างความเกลียดชังบนความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ จนลืมความเป็นเพื่อนมนุษย์ ที่อยู่ร่วมโลกเดียวกัน
" มนุษย์ล้วนกระทำผิดพลาด การให้อภัยคือความสูงส่ง"
(To err is human, to forgive divine - Alexander Pope)
คำว่า อภัย มาจาก อะ คือ "ไม่" ภัย คือ "มีโทษ" จึงแปลรวมกันได้ว่า "ไม่มีโทษ" นั้นคือการกระทำของผู้อื่นจะไม่มีโทษใดๆในใจของเราอีกต่อไป เพราะใจยกเว้นโทษให้เขาแล้ว จึงเรียกว่า การให้อภัย
ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า forgive มาจากภาษาโบราณว่า forgiefan แปลว่า การให้จนหมดสิ้น ( to give completely) ส่วนในภาษากรีกใช้คำว่า Aphiemi แปลว่า การจากบางสิ่งเพื่อดำรงไว้ซึ่งสิ่งที่เหลืออยู่ คือการยอมให้สิ่งที่ผิดพลาดได้จากไป เพื่อที่จะเหลือสิ่งดีงามไว้
การให้อภัย เป็นจิตสำนึกขั้นสูงและยังเป็นเครื่องวัดระดับความเติบโตของจิตใจ/จิตวิญญาณของผู้ให้อภัย เมื่อตระหนักในคุณค่าของชีวิต ว่าทุกคนเกิดมาล้วนปรารถนาความสุข ต้องการความรักความเข้าใจ ทุกชีวิตกำลังอยู่บนเส้นทางการเรียนรู้ และไม่มีใครผิดจนให้อภัยไม่ได้ ความเข้าใจนี้จะช่วยให้ก้าวข้ามการยึดติดกับอคติและความฝังใจ จะสามารถให้อภัยได้
ผู้ที่ให้อภัยได้ง่าย จึงมีจิตใจแจ่มใส หน้าตาผ่องใส ส่วนผู้ไม่ยอมให้อภัยจะเก็บความโกรธแค้นไว้ ให้เผาไหม้ร้อนอยู่ในใจเนืองๆ ในที่สุดทิศทางความโกรธจะย้อนกลับเข้าหาตัวเอง ( turning anger against the self ) จนกลายเป็นอาการซึมเศร้า
วันนี้คุณพร้อมให้อภัย เมื่อมีความเข้าใจแล้วว่า
- การให้อภัย ไม่ใช่เพราะเห็นดีด้วยกับการกระทำนั้น
- การให้อภัย ไม่ใช่ว่าจะลืมเรื่องราวร้ายได้
- การให้อภัย ไม่สามารถกลับไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงเรื่องซึ่งเกิดขึ้นแล้ว
แต่การให้อภัย คือการปลดปล่อยจิตใจของตนเอง ซึ่งถูกจองจำไว้ในกรงขังของความโกรธแค้น เป็นอิสระ คืนความแจ่มใสมีชีวิตชีวา เพื่อจะได้สร้างสรรค์ชีวิตอย่างมีพลัง เข้าใจชีวิต จิตใจเต็มเปี่ยมด้วยความรักเมตตา
การให้อภัยเริ่มได้จากตัวคุณเอง เมื่อตัดสินใจแน่วแน่ที่จะให้อภัย จนไม่มีใครหลงเหลือให้โกรธเคืองอีกเลยได้หรือไม่ ? เพื่อให้ครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศชาติได้พบความสงบและช่วยให้โลกนี้เย็นลง
