Reflection:

30 ส.ค. 66 ได้เรียนรู้อะไรและนำไปใช้อย่างไร จากหลักสูตร Leading Adaptive Team

อุดมการณ์ รากเหง้ามี4ข้อ 1.ลดกระบวนการแลัเครื่องมือที่มากเกิน 2.ลดเอกสารที่มากเกิน 3.ลดการเจรจาต่อรองให้เป็นไปตามสัญญา 4.ลดการทำงานตามแผนการที่ตายตัว Atomic Habits=ความสุขเล็กไป มี4ข้อ 1.ระบุเวลาสถานที่ให้ชัดเจน 2.รวมสิ่งที่ชอบทำเข้าด้วยกัน 3.ทำให้ง่ายขึ้นนำระบบอัตโนมัติมาช่วยในกิจวัตรเดิม 4.โฟกัสความก้าวหน้า จดบันทึกความสำเร็จ ความปลอดภัยทางใจ 1.กล้าปรากฏตัว ดำรงอยู่อย่างเปิดเผย 2.กล้าถาม-ตอบ กล้าบอกว่ายังไม่รู้3.กล้าลงมือทำ ทีส่วนร่วมในทีม อาสาทำ 4.กล้าแย้ง ในสิ่งที่ดีอยู่แล้ว

ได้เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม Atomic Habits การค่อยๆเปลี่ยนแปลง ทำบ่อยๆ ทำแบบสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง ก็จะเกิดการอยากทำอีก

เทคนิคการสร้างความต่อเนื่อง มี 4 ข้อดังนี้ 1. ทำให้คิดถึง ระบุเวลา สถานที่ให้ชัดเจน 2. ทำให้อยากทำ รวมสิ่งที่ชอบทำเข้ากับสิ่งที่ควรทำ 3. ทำให้ง่าย ทำให้ได้ในเวลาอันสั้น เช่นภายใน 2 นาที 4. ทำให้อยากทำอีก โฟกัสความก้าวหน้า ให้รางวัลในระหว่างทาง

ให้ความสัมคัญกับการร่วมมือกันในการทำงานพร้อมปรับเปลี่ยนแผนงานให้เหมาะสมกับสถานะการณ์ มองว่าการผิดพลาดคือการเรียนรู้ เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้มากขึ้นค่ะ

กุญแจของทีมที่คล่องตัว ปรับแผนทุก3อาทิตย์ โดยประมาณ นำการขอคำแนะนำจากคนอื่น มาปรับใช้ในการทำงาน สิ่งที่ชอบและนำไปใช้สะท้อนตนเอง ส่วนatomic habits จะนำมาปฎิบัติ

การบ่มเพาะการเปลี่ยนแปลง ทำให้เรียนรู้สิ่งกระตุ้น ทำให้อยากทำ มำให้ทำง่าย ทำให้อยากทำอีก

วิธีคิดและหลักการปฏิบัติ และการปรับใช้ สำหรับเพื่อนร่วมงาน หรือ หัวหน้างาน

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความปลอดภัยทางใจ การเรียนรู้ร่วมกันสะท้อนตนเองให้ก้าวข้ามไปได้ กล้าปรากฎตัวเองได้

พร้อมปรับเปลี่ยนแผนให้เหมาะสมลดการทำงานตามแผนการที่ตายตัวและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันการปรับตัวเข้าหากัน กล้าลงมือทำ

Atomic habits การเรียนรู้ร่วมกัน ผู้ตั้งรับ ผู้ต่อต้าน ผู้ควบคุม ความปลอดภัยทางใจ การสะท้อนตนเอง

การปรัพฤติกรรมของตนเอง ให้ค่อยๆเปลี่ยน และก้าวข้ามผ่าน สิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้

ได้รู้วิธีคิด และหลักการปฏิบัติในส่วนของการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน ได้นำไปปรับใช้พัฒนาตัวเองและแชร์ข้อคิดให้คนอื่นๆ เพิ่ม

การทำงานเป็นทีม เพื่อให้งานออกมาดีหรือผลงานและเป็นไปตามแผนที่วางไว้

เปิดใจรับฟังทุกความคิดเห็นโดยปราศจากอคติ

เปิดมุมมองใหม่โดยไร้อคติ เพื่อปรับใช้ให้ทันในยุคปัจจุบัน

ได้เรียนรู้การฝึกเก็บข้อมูลทางความรู้สึก ฝึกทำใจให้ใหญ่กว่าความคิด และรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และก้าวผ่านอคติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าเรานำมาใช้กับตัวเราก็จะทำให้เราได้พัฒนาการเป็นผู้นำที่เก่ง (ผู้นำที่เก่ง ต้องฝึกตั้งคำถามให้ดี ) และท้ายที่สุดถ้าเราเอาการเรียนรู้วันนี้มาปรับใช้เราอาจจะได้เป็นภาวะผู้นำ ระดับ บารมี ก็ได้ค่ะ

ผู้นำแห่งความเข้าใจ=เข้าใจถึงข้อมูลความรู้สึก Hot-Cold Empathy Gap=รู้ทันอารมณ์ ไม่ด่วนตัดสิน อาศัยความคิดกลุ่ม ที่หลากหลาย ฝึกสติ และสมาธิให้มุมมองเปิดกว้าง Empty Mapsแผนที่เปิดกว้าง=ผู้นำเปิดใจกว้าง การขอคำแนะนำจากคนอื่น=1.ถามให้ถูกคน ไม่เลือกเฉพาะคำชมเพื่อที่จะได้พัฒนา 2.ถามใก้ชัด การนำเสนอของฉันต่อที่ประชุมวันนี้ 3.ถามเพื่อนาคต ครั้งหน้าฉันจะทำให้ดีขึ้น 4.ถามเพิ่มเติม เมื่อได้รับคำชม -เราอาจช่วยใคร -ในเรื่องอะไร -เพื่อที่จะเกิดผลอย่างไร

ให้แสดงความคิดเห็น ช่วยแก้ไขปัญหาร่วมกันได้

ผู้นำแห่งความเข้าใจ อารมณ์พฤติกรรมให้ปรับเปลี่ยนเข้ากับสภาวะแวดล้อม

ผู้นำที่กล้าตัดสินใจผู้นำแห่งความเข้าใจเปิดรับคำแนะนำก้าวข้ามอคติในใจไปได้สามารถขอคำแนะนำจากคนอื่นได้

เข้าใจถึงความรู้สึกก้าวข้ามอคติในใจรู้ทันอารมณ์ไม่ด่วนตัดสินใจอาศัยการคิดกลุ่มฝึกสติสมาธิให้มุมมองเปิดกว้าง

เทคนิคในการถามเพื่อขอคำแนะนำจากคนอื่น มี 4ข้อคือ 1. ถามให้ถูกคน 2. ถามให้ชัดเจน 3. ถามเพื่ออนาคต ไม่ยึดติดกับอดีต 4. ถามเพิ่มเติมเมื่อได้รับคำชมเชย

ภาวะผู้นำ 5 ระดับ การก้าวข้ามอคติในใจ แรงจูงใจ ตัวเอง ทีมชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม

เนื้อหา ตัวอย่างของภาวะการเป็นผู้นำดีมากเลยค่ะ ทำให้เข้าใจง่าย ไม่มีถูกผิดแต่แค่ปรับมุมมองความคิดให้เข้ากับกับการทำงาน

เปิดโอกาสให้เพื่อนคิดแตกต่างและอยู่ร่วมกันได้ไม่ปิดกั้นความคิดเห็นของคนอื่น

ได้รู้ว่าตัวเราเป็นผู้นำแบบไหน และควรจะเปลี่ยงแปลงอย่างไร เพื่อให้ท้ายที่สุดผลลัพธ์ต่างๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และคนในทีมมีความสุขกับการทำงานค่ะ

เป้าหมายขององค์กรคืออะไร ผู้ร่วมสร้างบันได มี 4 ข้อ ผู้ปีนบันได เป็นตัวอย่าง ผู้ถือบันได สอนให้ทำแบบเรา ผู้ต่อเติมบันได ให้น้องเก่งกว่าได้ ผู้ร่วมสร้างบันได ให้น้องมีทีมงาน การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล ความสามารถในการปรับตัวของ องค์กร ผู้นำและพนักงาน Digital Transformation มี 6 ระดับ

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลคือความสามารถในการปรับตัวขององค์กรทีมต้องการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเนื่องมาจากเทคโนโลยี

กินข้าวให้อิ่ม แต่งหน้าให้สวย คือเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จในทุกเช้า จบ

อุปสรรคในการเปลี่ยนแปลง กรอบคิดในการเปลี่ยนแปลง

ได้เรียนรู้ภาวะความเป็นผู้นำ ซึ่งจะได้นำ leader SHIFT นำมาพัฒนาตัวเองและน้องๆที่สาขา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทำการทำงาน และได้เรียนรู้การเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมของเรากับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

ภาวะผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงต้องรู้จักปรับตัวที่รวดเร็ว ิก้าวทันเทคโนโลยีมาใช้ในงานให้เกิดประสิทธภาพและสร้างผู้ร่วมงานให้มีส่วนร่วม

การปรับตัวขององค์กรและพนักงาน การใช้เทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ภาวะผู้นำแบบเสือชีต้าร์ จากผู้ปีนบันได สู่ผู้ร่วมสร้างบันได มี 4 ข้อคือ 1.ผู้ปีนบันได = เป็นตัวอย่างที่ดี 2. ผู้ถือบันได= สอนให้เขาทำแบบเรา 3.ผู้ต่อเติมบันได= ให้น้องเก่งกว่าเราได้ 4. ผู้ร่วมสร้างบันได= ให้น้องมีทีมงาน

การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล คือความสามารถในการปรับตัว ขององค์กร ผู้นำ และพนักงาน ต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอันเนื่องมาจาก เทคโนโลยี Digital Transformation มี 6 ขั้นตอน 1.เก็บข้อมูลไว้ในไฟล์ 2.เชื่อมโยงข้อมูล เห็นยอดขายในปัจจุบันข้ามสาขาได้ 3.มองเห็นยอดได้ทันที 4.โปร่งใส ไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้ 5.คาดการเป้าหมายล่วงหน้าได้ 6.การปรับเปลี่ยนด้วยเทคโนโลยี

ภาวะผู้นำที่ปรับเปลี่ยนเร็ว จากผู้ปีนบันไดสู่ผู้ร่วมสร้างบันได ความสามารถในการปรับตัวขององค์กรผู้นำและพนักงานต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

Leader shift อุตสาหกรรม 4.0 การในInternet มาช่วย การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล ความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจากเทคโนโลยี

การปรับตัวให้เข้ากับสถานะการณ์ปัจจุบันเพราะมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น

ภาวะผู้นำไม่ใช่ตำแหน่ง แต่เป็นสิ่งที่มีในทุกคน เราสามารถเป็นผู้นำได้ถ้าหากมีโอกาสเข้ามา

สมดุลทางอารมณ์ มองความเครียกเป็นเรื่องที่ดีทำให้มีเผ้าหมายในงานที่ทำแต่ควรมีAlphaด้วย

สมดุลทางอารมย์มองความเครียดเป็นเรื่องที่ดี ทำให้มีเป้าหมาย

การเปลี่ยนแปลงภาวะผู้นำสามารถปรับและยืนหยุ่นในภาวะร่างกายและจิตได้ตามสภาพแวดล้อม

อุปสรรคในการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และวิธีการผ่อนคลายความตึงเครียด

ในช่วเวลาที่เราผ่อนคลาย หรือการฟังคลื่น alpha จะทำให้เราคิดงานออก ดังนั้นเรา ควรผ่อนคลาย เราจึงจะคิดงานหรือแก้ปัญหานั้นๆๆได้ดี

สามารถนำข้อมูลจากการเรียนรู้ มาปรับใช้ในการทำงาน และพร้อมที่จะเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ได้เรียนรู้กรอบคิด การเปลี่ยนแปลง จะได้นำไปใช้ในการทำงานเพื่อพัฒนาตนเอง

การเปลี่ยนแปลง การผ่อนคลาย ความสมดุลทางอารมณ์

-อุปสรรคในการเปลี่ยนแปลง -นำไปปรับปรุงแก้ไขพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กรอบคิด ที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ผู้ตั้งรับ ผู้ต่อต้าน ผู้ควบคุม นำไปใช้ในการวางแผนการทำงาน

1.งานเร่ง 2.งานเยอะขึ้น 3.งานใหม่ ฟอร์มตก มี3ส่วน 1.สู้,2.หนี,3.นิ่ง 1.ผู้ตั้งรับ 2.ผู้ต่อต้าน 3.ผู้ควบคุม 1.นักฝัน 2.นักทำ 3.นักค้าน การเชื่อมโยงของสมอง 1.สมองส่วนกลาง 2.สมองส่วนหน้า

สมดุลทางอารมณ์ รู้สึกต่อความเครียด

การมี self-awareness จะทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น เช่นการรู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร และจะจัดการกับอารมณ์หรือความรู้สึกเชิงบวกหรือลบนั้นยังไง เช่นการนำตัวเองไปอยู่ใน environment ที่ดี การอยู่กับคนที่มี positive mindset

การนำเรื่องกรอบความคิดมาใช้ในการทำงาน และการผ่อนคลาย ให้ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ตึงเครียด มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

1.3 สมดุลทางอารมณ์ รู้สึกดีกับความเครียด

การเปลี่ยนแปลง การผ่อนคลาย