นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปีได้ ที่ได้กลับไปที่วัดสวนแก้วอีกครั้ง ทั้งแปลกใจและประหลาดใจในความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย
รู้สึกเลยว่าที่นี่เป็นมากกว่าแค่วัดโดยได้กลายเป็นชุมชนแห่งการเกื้อกูล การดูแลคนทุกข์ยาก การเป็นที่พึ่งทาง กาย จิตใจและเศรษฐกิจ การทำมาหาเลี้ยงชีพ ฯลฯ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบ การวางแผนและมหาเมตตาธิคุณของหลวงพ่อพระพยอม พระผู้ซึ่งมีจิตแห่งความเป็นโพธิสัตว์อย่างเต็มหัวใจและเป็นนักธรรม และนักทำอย่างแท้จริง !
ครอบครัวเรารู้สึกเป็นบุญอย่างยิ่งที่ได้ถวายสังฆทานกับหลวงพ่อพยอม อุทิศส่วนกุศลให้คุณพ่อ ป่าป๊า ชายชาวจีนผู้ปรารถนาเห็นความเป็นธรรมและความเจริญของประชาชนเป็นสำคัญเช่นกัน เชื่อว่าป๊าเองคงดลใจให้เปิ้ลและลูกสะใภ้วาเนสสา แพท เลือกมาทำบุญที่วัดนี้
แปลกดีจริงๆ ที่ครอบครัวได้พบเจอพี่เพ่ยเพ่ย ไกด์นำเที่ยวสวนธรรมชาติแห่งวัดสวนแก้ว
เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายภาพพี่เพ่ยเพ่ยไว้ แต่เธอคือคนที่ถ่ายภาพหมู่ ภาพคู่สวยๆ ที่ผมลงให้เห็นข้างล่างนี้ครับ
พี่สาวใจดีคนนี้ มาช่วยพาครอบครัวเราตะลุยแสงอาทิตย์ยามเที่ยง ท่องสวนธรรมชาติสวยงาม แวะมุมถ่ายรูปมากมาย และจัดท่าถ่ายรูปสุดปังสุดฮา ที่ชีวิตนี้ ไม่รู้จะได้มีโอกาสโพสต์ท่าน่ารักกันเบอร์กันอีกแล้วไหม 555
แปลกดี ที่พี่เพ่ยเพ่ยได้จังหวะมาดูแลกรุ๊ปเรา ตอนแรกๆ ผมเองก็รู้สึกแปลกๆ กับธรรมชาติของนางมากๆ แต่พออยู่กันไป เดินกันไป ก็พบว่าพี่เพ่ยเพ่ยเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ไม่ธรรมดาจริงๆ มีใจรักบริการ รักผู้อื่น และมีพลังมากมายในการรับใช้
อยากขอบคุณพี่เพ่ยเพ่ยมากๆ สำหรับการดูแลพวกเรา
พวกเราเดินผ่านแดดใต้ร่มไม้ แวะถ่ายรูปกันจนจบทริป ผมรู้สึกดีใจและ อยากกราบหลวงพ่อพยอมอีกครั้ง ที่สร้างคนแบบนี้ขึ้นมาได้
บ่ายวานนี้ ผมได้เรียนรู้ว่า "โพธิสัตว์" แท้จริงแล้วก็อาจไม่ใช่คนมีดีมีวิเศษอะไร โพธิสัตว์ก็เพียงแค่คนที่มีใจอยากเห็นคนอื่นมีความสุข พ้นทุกข์ โดยยินดีสละกำลัง และชีวิตของตัวเองเข้าแลก
มันก็แค่คนที่เพียรเรียนรู้ How to be Love and Unconditioned Love แค่นั้นเอง
ทั้ง อาจารย์ของท่าน พระอาจารย์พุทธทาส ตัวท่านพระพยอมเอง
รวมทั้งพี่เพ่ยเพ่ย พี่ชายคนจัดที่คอยเก้าอี้นั่งถวายสังฆทานอย่างแข็งขัน คุณยายขายผลไม้ พี่ชายคนขับรถเข้าไปส่งในสวยพฤกษชาติ น้องนางฟ้าน้อยๆ 2 คนที่วัดที่คอยนำกล่าวคำถวายสังฆทาน (น้องน่ารักมาก เหมือนนางฟ้า ลูกสาวพญานาคมาเกิดปานนั้น) ฯลฯ
โพธิสัตว์ หรือ โพธิจิต มันก็แค่คนที่เติบโตและเรียนรู้ผ่านความเจ็บปวด ความทุกข์ของชีวิตตัวเองและคนอื่นๆ จนรู้จักมันดี เข้าใจมันดี และจนถึงจุดหนึ่ง ใจมันเลือกที่จะไม่ทน และทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้คนอื่นเป็นทุกข์อีกต่อไป
จังหวะนั้นเอง ดอกบัวก็บาน ณ แดนสุขาวดี เมื่อคนบนโลกหนึ่งคน เลือกกระทำการอะไรบางอย่าง เสียสละเงิน ทอง เวลา ความคิด หรือแม้แต่กำลัง ไปจนถึงชิ้นส่วนอวัยวะ หรือกระทั่งชีวิตเพื่อให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ และมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
จริงๆ แล้ว ผมเชื่อมากตลอดว่า เมืองไทยเป็นแผ่นดินที่มีโพธิจิตลงมาเกิดลงมาตาย หลายคนและหลายๆ รอบ น่าจะมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
ไม่เชื่อ ก็ลองมองไปที่คนรอบๆ ตัวเราเองก็ได้
ในครอบครัวของเรา ในที่ทำงาน มันจะมีเสมอ ใครบางคนที่มีพื้นที่แห่งใจและความรักเพื่อผู้อื่นมากเป็นปกติ อดทน เสียสละ และยอมเพื่อผู้อื่นใด
แล้วโลกมันก็ค่อยๆ ดีขึ้นทีละนิดๆ ก็ด้วยความคิด พูด ทำ ของคนแบบนี้แหล่ะครับ
ใช่ พวกเขาไม่สมบูรณ์แบบ และยังมีกิเลสครบถ้วนแบบปุถุชน แค่เพียงว่า เขามี 'ธงแห่งรัก' ปักมั่นคงอยู่ในใจ
ที่ว่า ต่อให้โลกแย่แค่ไหน คนมันจะหลง จะมัวเมาแก่งแย่งกันขนาดไหน เอาล่ะเหว่ย จะขอลองสู้ชีวิตสักครา และเป็นแสงเทียนเล่มเล็กๆ ท่ามกลางมรสุมชีวิต เพื่อให้ไม่เสียทีที่เกิดมาในรอบนี้
ถึงตรงนี้ ผมขอน้อมก้มลงกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระอาจารย์พยอมอีกครั้ง ที่ได้ธรรม และได้ทำจนเป็นประจักษ์แก่สายตามนุษย์ และได้เกื้อกูลนับร้อยนับพ้นนับหมื่นนับแสนชีวิตด้วยความรัก เมตตาและความเพียรอันยิ่งยวดของท่าน
กราบ กราบ กราบ
.
.
.
ขอน้อมส่งบุญทั้งหลายให้คุณพ่อ ไพชยนต์ กมลเปรมปิยะ ผู้เป็นดั่งโพธิสัตว์แห่งครอบครัวของเราตลอดมา
ขอน้อมส่งบุญให้เพื่อนๆ พี่น้องทุกคนที่เพียรอ่านมาถึงตรงนี้เช่นกัน ขออนุโมทนากับกัลยาณมิตรทุกคนด้วยนะครับ
ด้วยรักและรัก
ในครอบครัวกมลเปรมปิยะ
ไปวัดในวันเสาร์ที่ 2 กันยายน